Last updated: 8 ต.ค. 2567 | 4251 จำนวนผู้เข้าชม |
• เช็คปริมาณน้ำเสียที่ใช้ต่อวัน มากเกินไปหรือเปล่า?
ควรตรวจสอบการใช้น้ำเสีย/วันของเรา ว่าเหมาะสมกับขนาดถังบำบัดน้ำเสียที่เราติดตั้งหรือไม่ เพราะถ้าหากว่าเราใช้น้ำเยอะเกินไป บ่อบำบัดน้ำเสียมีขนาดเล็ก ประสิทธิภาพการบำบัดจะลด เกิดการรับโหลดของถังเยอะเกินไป ลักษณะจะคล้ายๆ น้ำเสียไม่ได้บำบัดเลย ส่งผลให้มีกลิ่นเหม็นครับ
• เครื่องเติมอากาศไม่ทำงานปกติหรือไม่?
ปัญหาที่พบบ่อย คือเครื่องเติมอากาศหยุดทำงาน อาจจะเกิดจากการชำรุดเสียหาย ส่งผลให้ปริมาณออกซิเจนที่เติมให้จุลินทรีย์มีน้อย ทำให้ลดจำนวนลงหรือเปลี่ยนสภาพไป จึงส่งผลโดยตรงต่อระบบบำบัดน้ำเสียให้มีกลิ่นตามมา
• การติดตั้งท่อระบายอากาศอยู่ใกล้เกินไป
ตำแหน่งปลายท่อระบายอากาศ ควรติดตั้งให้สูง เพื่อการระบายอากาศเสียให้พ้นจากตำแหน่งที่เราพักควรอยู่ชิดกำแพง หรือจุดห่างไกลจากผู้คนจะช่วยลดกลิ่นเหม็นได้ หากเราเดินท่อระบายอากาศไม่ดี จะส่งผลให้กลิ่นเหม็นออกจากฝาถังบำบัด ซึ่งอยู่ที่พื้น จะทำให้กลิ่นกระจายตัวได้ดี สาเหตุที่เราไม่ควรมองข้ามนะครับ
• ห้ามดูดส้วมบ่อยเกินไป
ฟังดูแล้วขัดแย้งกันใช่ไมครับ เวลาคนทั่วไปดูดส้วมมักจะดูดจนหมดถังบำบัด ทำให้จุลลินทรีย์ถูกดูดออกไปด้วย พอไม่มีจุลินทรีย์ การบำบัดไม่เกิด ทำให้กลิ่นเหม็นตอนดูดส้วมใหม่ๆ เป็นประจำ ปัจจุบันถังบำบัดน้ำเสีย มีเทคโนโลยีในการออกแบบที่ดี ระยะเวลาในการดูดส้วมควรจะนาน 1-2 ปี/ครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ดูดจุลินทรีย์ไปด้วย หรือ ถ้าจะดูดบ่อยๆ ควรดูดเพียง 25% ของถังเท่านั้น ไม่ควรดูดจนหมดครับอย่างไรก็ตาม ระบบบำบัดน้ำเสีย เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องดูแลต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ดูแลสิ่งแวดล้อมให้ดีต่อโลกเราต่อไป
1.การเพิ่มประสิทธิภาพการเติมอากาศ:
2.การควบคุมค่า pH:
3.การจัดการกากตะกอน:
4.การควบคุมอุณหภูมิ:
5.การใช้สารเคมีอย่างเหมาะสม:
6.การเพิ่มจุลินทรีย์:
7.การปรับปรุงระบบระบายอากาศ:
8.การให้ความรู้แก่ผู้ใช้งาน:
แอดมินพร้อมและยินดีให้คำปรึกษาฟรีครับ
หากท่านใดมีปัญหาระบบบำบัดน้ำเสีย ติดต่อมาได้เลย
บริษัท เอ็ม-เทค วอเตอร์โซลูชั่น จำกัด
096-9314999
096-7896939
034-446877
16 มิ.ย. 2565
5 ส.ค. 2567